วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

สิ่งพิมพ์ที่ฉันปลื้มมมม





































                                                       Design by

                                                       TEERAPORN LAOKAWEE









วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ฝันร้ายบนเกาะร้าง


อันยองฮาเซโยแปลว่า สวัสดี(ภาษาเกาหลี) อิอิ อย่าเพิ่งตกใจนะค่ะที่วันนี้คุณผู้เขียนบล็อกนี้ มาแปลกๆ ฮ่าๆ จากการที่บล็อกของเราในตอนก่อนหน้านี้  คุณผู้เขียนได้นำเสนอสาระในด้านวิชาการมามากพอสมควร ในครั้งนี้ เราจะมานำเสนอในสาระของความบันเทิงที่น่าสนใจค่ะ นั่นก็คือ หนังสือน่าอ่าน (แหน่ะๆ อย่าเพิ่งเบื่อนะค่ะ) เพราะหนังสือที่วันนี้คุณผู้เขียนจะแนะนำให้กับคุณผู้อ่านเป็นหนังสือที่น่าสนใจมากๆ เลยนะค่ะ


            ลองคิดดูสิค่ะว่า ถ้าเดิมทีเรานั่งเครื่องบินอยู่ดีดี แล้วจากนั้นก็ไม่รู้อะไรเลย พอตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองโชคดีรอดชีวิตมาได้จากเครื่องบินตก แต่กลับโชคร้ายต้องติดอยู่บนเกาะร้างเพียงลำพัง แถมยังมีแค่กระเป๋าที่มีของใช้เพียงไม่กี่ชิ้นเป็นสมบัติติดตัวเหมือนกับโนบินสัน เราจะทำอย่างไรดี วันนี้เราจะมาดูวิธีการเอาตัวรอดกันอย่างชาญฉลาดบนเกาะร้างเพียงลำพังนะค่ะ


            หนังสือเล่มนี้ มีชื่อว่า ฝันร้ายบนเกาะร้าง ซึ่งเป็นหนังสือ เล่ม 1 ชุด โนบินสันผจญภัย หนังสือเล่มนี้ แต่งโดย Park, Sang Jun & Park, Kyung Soo และ แปลโดย ปภาวดี ทองสุข เป็นหนังสือประเภท เสริมความรู้,สารคดี สำหรับเด็ก และ เยาวชน หมวด วิทยาศาสตร์ ในหนังสือเล่มนี้จะกล่าวถึง โนบินสัน ชายผู้รอดชีวิตจากเครื่องบินตกและต้องติดเกาะร้างอยู่เพียงลำพัง



            ถ้าโชคชะตาเล่นตลก ให้คุณติดเกาะร้าง เหมือนโรบินสัน ครูโซ แต่คุณรู้วิธีกลั่นน้ำทะเล ก่อไฟด้วยน้ำ หาอาหารมือเปล่า และต่อแพ เชื่อไหมว่าคุณมีโอกาสรอด 99.9% เชียวนะ จริงอยู่ที่สถานการณ์ติดเกาะร้างแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ หรือเราคงไม่ได้โชคร้ายอย่างนั้น แต่ถ้ามันเกิดขึ้นล่ะ คุณจะเตรียมตัวรับสถานการณ์นั้นอย่างไร โนบินสันเป็นตัวอย่างที่ดีในการยอมรับสภาพและเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ทั้งหาน้ำดื่ม หาอาหาร สร้างที่พัก สร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น


            หลังจากตัวของคุณผู้เขียนบล็อกได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คิดว่า หนังสือเล่มนี้สนุกมากจริงๆ เพราะเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาแง่คิดดีดี ความสนุกสนาน มีรูปภาพประกอบที่น่ารัก และการสอดแทรกสาระที่ไม่น่าเบื่อ ทำให้เมื่ออ่านแล้วคิดว่า โนบินสันเป็นคนที่มีความพยายาม ช่างคิด ช่างสังเกต รู้จักการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่แย่สุดสุดได้ด้วยตนเอง ทำให้คุณผู้เขียนบล็อกเมื่อได้อ่านแล้วก็มองย้อนดูตัวเองหลายครั้งว่าทำไมถึงไม่มีความพยายามเท่าโนบินสัน ทั้งที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าโนบินสัน ทำให้คุณผู้เขียนเริ่มหันมามองตนเองและคิดว่าเราควรจะมีความพยายามในการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ รู้จักการคิด การช่วยเหลือตนเอง การพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส


“...ความหวัง ความพยายาม และการรู้จักพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส
สามารถทำให้เราเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่แย่ได้เสมอ…”



            หนังสือเล่มนี้จะเล่าเรื่องราวการผจญภัยสนุกๆ พร้อมสอดแทรกหลากหลายความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของโนบินสัน นักศึกษาจอมกวน แต่ฉลาด ที่ต้องติดเการ้าง ทุกอย่างที่เขาทำล้วนเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะมีรูปภาพ เกร็ดความรู้สาระดีดีต่างๆ ชวนคิดให้เราได้เผลอคิดตามไปด้วยล่ะค่ะ ลองตามเขาไปสิค่ะ แล้วคุณผู้อ่านจะรู้ว่าโลกนี้ยังมีสิ่งที่รอให้เราค้นพบอีกมากมาย :D




Meet again
DREAM Teeraporn 


วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รู้จัก เครื่องฉายฟิล์มสไลด์ Cenei Scoper H4

สวัสดีค่ะ ชาวบล็อคคคคคทั้งหลายยยยยยย ยังอยู่รึป่าวเอ่ย ขอเสียงหน่อย!!!!!

ช่วง นี้ฝนตกบ่อย รักษาสุขภาพกันด้วยนะค่ะคุณผู้อ่าน วันนี้ผู้เขียนมีสาระดีดีมาฝากอีกแล้ว อย่าเพิ่งเบื่อกันไปก่อนนะค่ะ เพราะวันนี้ผู้อ่านมีทีเด็ดดดดค่ะ เรื่องที่จะนำเสนอในวันนี้ก็คือ สื่อเทคโนโลยีทางการศึกษา ที่มีชื่อว่า Cenei Scoper H4 หรือ เครื่องฉายฟิล์มสไลด์


            เครื่องฉายฟิล์มสไลด์ หรือ Cenei Scoper H4 ถือเป็นสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาในประเภทเครื่องฉายระบบฉายตรง ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องฉายที่มีการทำงานที่ไม่ซับซ้อน ปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมใช้เพราะมีสื่อเทคโนโลยีใหม่เข้ามามากมายทำให้ เครื่องฉายฟิลม์สไลด์ถูกลืมไป จะ เห็นว่าเครื่องฉายระบบนี้จะมีลักษณะการทำงานเริ่มจาก แสงจากหลอดฉายผ่านเลนส์รวมแสง ผ่านวัสดุฉาย ไปยังจอเป็นเส้นตรง จึงเรียกเครื่องฉายระบบนี้ว่า ระบบฉายตรง เครื่องฉายระบบนี้ได้แก่ เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องฉายสไลด์ เครื่องฉายฟิล์มสตริป และเครื่องฉายฟิลม์สไลด์นั่นเอง 


            เนื่องจากตัวผู้เขียนเองรู้สึกชอบและสนใจในเจ้าเครื่องฉายฟิลม์สไลด์นี้จึงได้นำมาทำเป็น VDO แนะนำเครื่องฉายฟิล์มสไลด์ หรือ Cenei Scoper H4 เพื่อให้คุณผู้อ่านไม่เบื่อกับเนื้อหาที่อัดแน่นจนเต็มบล็อค อิอิ ซึ่งเป็นคลิปวิดีโอที่ ผู้เขียนตั้งใจมากในการจัดทำขึ้นเพื่อให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกับเจ้า เครื่องฉายฟิล์มสไลด์ หรือ Cenei Scoper H4 ที่เป็นสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาที่กำลังจะถูกลืม และหายไปช้าๆ พร้อมรับชมกันรึยังเอ่ย พร้อมแล้วไปกันเลยยยยยย



          

       เป็นอย่างไรบ้างค่ะกับความรู้ สาระ และความบันเทิงในวันนี้ หวังว่าคงทำให้คุณผู้อ่านได้รับความรู้ไปไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากคุณผู้อ่านสนใจอยากจะมาสัมผัส ทดลองใช้เจ้าเครื่องฉายฟิล์มสไลด์ หรือ Cenei Scoper H4 ก็สามารถมาใช้บริการได้ที่ 

  ห้องบริการสื่อและเทคโนโลยีการศึกษา ชั้น 8 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรันครินทรวิโรฒ 

 

 

 

วันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2555

Search Engine สื่อและเทคโนโลยีการศึกษากับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21


           สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านที่รักยิ่ง สบุย เอ้ย!!! สบายดีกันรึป่าวค่ะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ วันนี้เราก็มีสาระดีดีทางวิชาการมานำเสนอกันอีกแล้วครับท่าน อย่างเพิ่งเบื่อกันน้าาาเราจะมาถกกันในหัวข้อที่ว่า สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาที่เหมาะสมและจำเป็นกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และ Search Engine ว้าววว เป็นความรู้ที่ใหม่และใกล้ตัวเรามากเลยนะค่ะ เพราะปัจจุบันถือเป็นยุคไอที ยุคแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ดังนั้นเพื่อที่จะก้าวทันโลก การศึกษาก็ย่อมจะต้องมีการพัฒนาไม่ให้น้อยหน้ายุคสมัยเลยทีเดียว

สื่อและเทคโนโลยีการศึกษากับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21


            สังคมปัจจุบันเราจะเห็น เด็กยุคใหม่สมัยนี้มีความแตกต่างจากเด็กยุคเก่าอย่างมาก เพราะเด็กยุคใหม่จะมีความรู้เยอะกว่าเด็กในยุคเก่า เด็กในยุคใหม่จะมีช่องทางการเรียนรู้ที่หลากหลาย ต่างจากเด็กในยุคเก่าที่ได้รับความรู้เพียงแค่ในห้องเรียนและหนังสือเท่านั้น ยุคนี้ถือเป็นยุคแห่ง ICT เทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ ซึ่งเด็กสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างรวดเร็วผ่านสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศหลากชนิด อีกทั้งยังเป็นสื่อกลางส่งผ่านความรู้จากผู้สอนสู่ผู้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจความหมายของเนื้อหาบทเรียนได้ตรงกับที่ผู้สอนต้องการ ไม่ว่าสื่อนั้นจะอยู่ในรูปแบบไหนก็ตาม ล้วนแต่เป็นทรัพยากรที่สามารถอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทั้งสิ้น ดังนั้นสื่อเทคโนโลยีการศึกษาจึงมีความสำคัญมากกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
            เทคโนโลยี คือ จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ทำให้ยุคสมัยเปลี่ยนไป เมื่อยุคเปลี่ยนทุกอย่างก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยไม่เว้นแม้แต่การศึกษาที่มีการเปลี่ยนแปลง ก้าวล้ำมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันต่อกระแสโลกที่เปลี่ยนไป การเรียนรู้ในปัจจุบันก็จะมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่าการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ถือเป็นทักษะแห่งการเรียนรู้สมัยใหม่เพื่อช่วยให้ผู้สอนบูรณาการทักษะเข้าในการสอนเนื้อหาหลักด้านวิชาการ และพัฒนาวิสัยทัศน์การเรียนรู้ เป็นกรอบความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยผสมผสานองค์ความรู้ ทักษะเฉพาะด้าน ความชำนาญการและความรู้เท่าทันด้านต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการทำงานและการดำเนินชีวิต กรอบแนวคิดข้างต้นเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตใหม่สำหรับประเทศไทย

            เพื่อให้คุณผู้อ่านเข้าใจเรื่องการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21ได้ง่ายขึ้น เรามี วีดีทัศน์ วิถีสร้างการเรียนรู้ในศตวรรษที่21” ซึ่งจะอธิบายเกี่ยวกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่21ได้อย่างกระชับและเข้าใจง่ายค่ะ ^^



            การนำทักษะในศตวรรษที่ 21 ทุกทักษะไปใช้ นักเรียนทุกคนจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้มีความรู้ความเข้าใจเนื้อหาหลักด้านวิชาการ การที่นักเรียนจะสามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณและสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นต้องอาศัยการบูรณาการของพื้นฐานความรู้จากที่เรียน

          นักเรียนต้องเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นเพื่อให้ประสบความสำเร็จในโลกทุกวันนี้ เช่น การคิดอย่างมีวิจารณญาน การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การสื่อสารและการร่วมมือกัน

  
            กรอบความคิดข้างต้นจำเป็นต้องมีระบบสนับสนุนการศึกษาที่จำเป็น ได้แก่ มาตรฐานการเรียนรู้ การประเมินผล หลักสูตรและวิธีการสอน การพัฒนาวิชาชีพและบรรยากาศการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากขึ้นและจบการศึกษาออกไปด้วยความพร้อมที่จะประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจโลกของทุกวันนี้

            สื่อและเทคโนโลยีการศึกษาที่คนรู้จัก และนิยมใช้กันอย่างล้นหลามก็คงหนีไม่พ้น โปรแกรมค้นหา หรือ Search Engine เป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุด ทั้งยังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง Search Engine หรือ โปรแกรมค้นหา คือ โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย Search Engine ส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (Keyword) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่คิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน Search Engine บางตัว เช่น Google จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อๆ ไป


            ปัจจุบันมี Search Engine หลาหลายที่ให้เราได้เลือกใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Google Yahoo, MSN,  Ask Jeeves, AOL,dogpile และอื่นๆอีกมาย

          
            เนื่องจากมี Search Engine จำนวนมากในโลกอินเตอร์เน็ต ก็มีผลสำรวจจำนวนของผู้เข้าใช้บริการ อันดับ 1 ก็คงหนีไม่พ้น Google


              นี่ก็จะเป็นหน้าตาของ Search Engine ที่มีผู้นิยมเข้าใช้สูงสุด ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก นั่นก็คือ อากู๋ ที่คนไทยชอบเรียก หรือที่คนทั่วโลกรู้จักในนาม Google ลักษณะการใช้งาน Search Engine แทบทุกตัว ก็ไม่ยากมาก เพราะเพียงแค่เราใส่คีย์เวิร์ดลงไปในช่องค้นหาแล้วก็กดค้นหา ก็จะมีข้อมูลมากมายให้เราได้เลือก

            สื่อและเทคโนโลยีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่เว้นแม้แต่ Search Engine โปรแกรมค้นหาที่เราคิดว่าดีมีประโยชน์ ทันสมัยคนใช้กันอย่างแพร่หลาย สะดวก รวดเร็วในการหาข้อมูล แต่ก็ยังมีทั้งข้อดีและข้อจำกัดอยู่บ้าง เราจะมาพูดถึงข้อดีกันก่อน Search Engine ถือว่าเป็นโปรแกรมค้นหาข้อมูลได้ครอบคลุมทั่วทุกมุมโลก ติดตามข่าวสารความรู้และความเคลื่อนไหวต่างๆได้อย่างรวดเร็ว สามารถหาข้อมูลได้หลากรูปแบบทั้งภาพและเสียง เป็นข้อมูลที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาในการหาข้อมูล สามารถค้นหาจากเว็บไซต์เฉพาะทางได้ มีความหลากหลายในการค้นหาข้อมูล  รองรับการค้นหาแทบจะทุกภาษา นอกจากจะมีข้อดีมากมายแล้ว ข้อจำกัดของ Search Engine ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน อาทิ ข้อมูลที่ได้อาจจะไม่ถูกต้อง เนื่องจากไม่มีผู้รับรอง ต้องมีการศึกษาการใช้งานเพื่อการสืบค้นข้อมูล มีข้อมูลซ้ำมากมาย เด็กไม่ได้รับความรู้อย่างแท้จริงหากใช้ Search Engine แบบผิดๆ การทำงาน การเรียนรู้ในบางทักษะ เช่น ทักษะการทำงาน ทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์ลดลง เป็นต้น สื่อและเทคโนโลยี จะส่งผลดีหรือผลเสีย ก็อยู่ที่ตัวของเราเองว่าใช้ถูกวิธีหรือไม่ เพราะทุกสิ่งบนโลกก็ย่อมมีสองด้าน อยู่ที่ตัวเราที่จะพินิจพิเคราะห์ด้วยตนเอง



             เราจะเห็นได้ว่าสื่อและเทคโนโลยีการศึกษามีความสำคัญมากต้องการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีสื่อและเทคโนโลยีมากมากเข้ามาในชีวิตของเรามากขึ้น เราสามารถเลือกใช้ได้อย่างเสรี แต่เราจะใช้ได้มากหรือน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่ความสมารถ ศักยภาพของตัวเราเองว่ามีการเรียนรู้ต่อยอดในการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธีหรือไม่ Search Engine ถือว่าเป็นสื่อและเทคโนโลยีการศึกษาชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะ ถือเป็นสื่อและเทคโนโลยีที่มีความครบพร้อม ทันสมัย รวดเร็ว เหมาะกับการเรียนรู้ที่มีการบูรณาการทางความคิดเป็นอย่างมาก การใช้สื่อและเทคโนโลยีก็มีทั้งข้อดีข้อจำกัด อยู่ที่เราว่าจะรู้จักนำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน 

            เป็นอย่างไรค่ะ คุณผู้อ่านวันนี้เราก็ได้เห็นถึง การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สื่อเทคโนโลยีการศึกษา และ Search Engine โอ้โห้!!! วันนี้ความรู้อัดแน่นถึงสามเด้ง ฮ่าๆ หวังว่าคุณผู้อ่านคนไม่เบื่อกันไปซะก่อนนะค่ะ เพราะเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องใกล้ตัวเราจริงๆ การพัฒนาของโลกพัฒนาทุกสิ่งให้เปลี่ยนแปลงไปได้มากจริงจริงว่ามั้ยค่ะ คุณผู้อ่าน ^^


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก




           http://www.qlf.or.th

วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามีความสำคัญอย่างไรต่อเรา?

                สวัสดีค่าาาาาา ชาว Blog DREAN StoRY เรื่องราวพร่ำเพ้อของคนช่างฝัน เนื่องจากได้ห่างหายจากการเขียนบล็อคมายาวนานมาก ทำให้แอบหลงๆ ลืมๆ งงๆ กับการเขียนบล็อคไปบ้าง แต่ก็สามารถกู้ข้อมูลกลับมาได้ทัน ฮ่าาาๆ และด้วยเห็นผลที่หายไปนาน การกลับมาครั้งนี้ จึงเป็นการกลับมาแบบมีสาระ (รึป่าวนะ ฮ่าๆ) สาระจริงๆค่ะ วันนี้เราจะมาพูดในเรื่องเชิงวิชาการกันบ้างดีกว่านะค่ะเรื่องที่จะนำเสนอก็คือ.....

ความสำคัญของศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศ

เพื่อการศึกษาที่มีต่อสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา



          สังคมปัจจุบันเป็นสังคมสมัยใหม่ หรือที่เรียกว่า ยุคโลกาภิวัตน์ ถือเป็นยุคที่มีวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและไร้ขีดจำกัด เพื่อที่จะก้าวให้ทันกระแสโลก และกระแสเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป ในด้านการศึกษาก็เช่นกัน ได้มีการพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆมากยิ่งขึ้น มีการค้นพบวิทยาการใหม่ๆ สรรค์สร้างขึ้นเพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในยุคใหม่ ที่ต้องการจะพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้มีความรู้มากขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นในด้านการศึกษาจึงมีการนำเอาสื่อและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ในการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงกับเป้าหมายของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ในปีพุทธศักราช 2542 ว่าด้วยเรื่อง การศึกษาคือ การเรียนรู้ตลอดชีวิต นั่นคือการศึกษาที่เป็นอิสระ การศึกษาตามอัธยาศัย โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยมีอาจารย์หรือครู เปรียบกับผู้ชี้แนะแนวทาง และส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้เพิ่มเติม ค้นคว้าหาข้อมูลนอกเหนือจากการสอนในระบบ เพราะการเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาไม่ใช่เฉพาะในชั้นเรียนเพียงเท่านั้น และการศึกษาเช่นนี้เหมาะสมกับผู้เรียนในทุกระดับชั้น แต่ในระดับอุดมศึกษาจะเป็นการพัฒนาที่เกิดประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการเพิ่มพูนความรู้จากเดิมที่มีอยู่แล้วให้มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจึงมีการส่งเสริมศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาต่อสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาจึงถือเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นที่ให้ความรู้แก่นิสิตนักศึกษา และบุคคลทั่วไปมากมาย เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาคำตอบ ความรู้เพิ่มเติม อีกทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายความเครียดอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ชาวบล็อค DREAN StoRY เห็นภาพชัดยิ่งขึ้นก็จะขอยกตัวอย่างศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษามาสักหนึ่งแห่งนั่นก็คือ

สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

         สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดดำเนินการพร้อมกับมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2507 ขณะนั้นมีฐานะเป็น กองห้องสมุด สังกัดสำนักงานอธิการบดี โดยใช้ส่วนหนึ่ง ของอาคารภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ เป็นที่ทำการชั่วคราว และย้ายไปอยู่ที่อาคารเอกเทศ เมื่อปี พ.ศ. 2511 ต่อมาปี พ.ศ.2519 ได้รับการยกฐานะเป็น สำนักหอสมุด และได้รับงบประมาณสร้างอาคารใหม่ เนื่องจากอาคารเดิมคับแคบ เพราะจำนวนทรัพยากร และผู้ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และได้ย้ายมาอยู่อาคารหลังปัจจุบัน เมื่อเดือนตุลาคม 2522 ต่อมาปี พ.ศ.2540 ได้รับอนุมัติให้ขยายอาคาร มีเนื้อที่เพิ่มขึ้น 6,944 ตารางเมตร รวมพื้นที่ 15,768 ตารางเมตร บริการที่นั่งอ่าน 1,796 ที่นั่ง และให้บริการนักศึกษาในปี พ.ศ.2544

วิสัยทัศน์    
เป็นศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center) ระดับแนวหน้า ที่สนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความเป็นเลิศ (University of Excellence)  


พันธกิจ 
1. แสวงหา สร้างสม จัดระบบ และอนุรักษ์ บำรุงรักษาทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภทตามหลักวิชาการและมาตรฐานสากล
2. พัฒนาศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นภาคเหนือ และแหล่งข้อมูลกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) รวมทั้งแหล่งข้อมูลกลุ่มประเทศอาเซียน 
3. บริการทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภท ทุกรูปแบบอย่างมีคุณภาพ 
4. ทำนุ บำรุงศาสนา  ศิลปวัฒนธรรม  ประเพณีไทยและท้องถิ่นล้านนา  โดยการมีส่วนร่วมของกิจกรรม  รวมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
5. บริหารจัดการด้วยหลักธรรมาภิบาล 

วัตถุประสงค์   
1. เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ ที่สนับสนุนการเรียนการสอน การวิจัย โดยมีทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภทที่มีคุณภาพและมาตรฐาน 
2. เพื่อการสงวนรักษาและอนุรักษ์ (Preservation and Conservation) ทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภท อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ
3. เพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นภาคเหนือ และแหล่งข้อมูลกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) รวมทั้งแหล่งข้อมูลกลุ่มประเทศอาเซียน 
4. เพื่อบริการและส่งเสริมการรู้สารสนเทศ  ที่สนับสนุนการเป็นมหาวิทยาลัยแห่งความเป็นเลิศ และการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
5. เพื่อ ทำนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทยและท้องถิ่นล้านนา โดยการมีส่วนร่วมของกิจกรรม รวมทั้งอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
6. เพื่อให้มีระบบบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ตรวจสอบได้  

ยุทธศาสตร์การพัฒนาสำนักหอสมุด  มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 
ยุทธศาสตร์ที่ 1: พัฒนาห้องสมุดให้เป็น Learning Center
ยุทธศาสตร์ที่ 2: พัฒนาศูนย์ข้อมูลท้องถิ่นภาคเหนือ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ประเพณีไทยและท้องถิ่นล้านนา
ยุทธศาสตร์ที่ 3: พัฒนาสำนักหอสมุดตามหลักการบริหารจัดการที่ดีและมีประสิทธิภาพ


บริการ
·       บริการสนับสนุนการวิจัย
o   บริการบรรณารักษ์พบนักวิจัย
o   บริการรวบรวมแหล่งข้อมูลอ้างอิง
o   บริการรวบรวมแหล่งสารนิเทศของห้องสมุดตามสาขาวิชา
o   บริการห้องค้นคว้ากลุ่ม
o   บริการห้องค้นคว้าส่วนบุคคล
o   บริการแจ้งข้อมูลใหม่
·       บริการสำหรับนักศึกษากลุ่มพิเศษ
·       บริการสำหรับสมาชิก
o   คู่มือ
o   ตรวจสอบข้อมูลการยืมคืน
o   บริการการจองทรัพยากรสารนิเทศ
o   บริการต่ออายุหนังสือด้วยตนเอง
o   บริการทำบัตรสมาชิก
o   บริการนำส่งเอกสาร (D.D.)
o   บริการยืม-คืน
o   บริการยืมระหว่างห้องสมุด
o   บริการยืมหนังสือด้วยตนเอง
o   บริการวารสารและเอกสาร
o   บริการหนังสือสำรอง
o   บริการห้องค้นคว้ากลุ่ม
o   บริการแจ้งข่าวสารผ่านโทรศัพท์มือถือ
o   บริการโสตทัศนวัสดุ
·       บริการอ้างอิง 
          o  บริการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรสารสนเทศ
              
            เป็นอย่างไรบ้างค่ะ ชาวบล็อค DREAN StoRY  วันนี้สาระมาเต็มกันทีเดียว รู้ถึงความสำคัญของศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาแล้วใช่มั้ยค่ะ หวังว่าคงไม่เบื่อกันไปซะก่อนนะค่ะ ฮ่าๆ ซึ่งสาระในวันนี้ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวของพวกเรามากๆ เพราะโลกของเราเป็นยุคโลกาภิวัฒน์ ทุกสิ่งรอบตัวแทบทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกัยเทคโนโลยีทั้งสิ้น ดังนั้นในเรื่องการศึกษาในสมัยนี้จึงต้องมีการนำสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทคมาใช้เพื่อประสิทธิภาพที่ดีของการเรียนการสอน ซึ่งการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีการศึกษาสาระสนเทศนั้นจะมีความสำคัญอย่างมากกับการเรียนในระดับอุดมศึกษา ในระดับอุดมศึกษาจะเป็นการพัฒนาที่เกิดประสิทธิภาพสูง เพราะเป็นการเพิ่มพูนความรู้จากเดิมที่มีอยู่แล้วให้มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นจึงควรมีการส่งเสริมและให้ความสำคัญกับศูนย์บริการสื่อและเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาต่อสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาให้มากยิ่งขึ้น